Blog

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศไทยรับรู้ได้เมื่อ กลางปีที่ผ่านมา กลายเป็นเครื่องเตือนใจสำคัญว่า ภัยพิบัติไม่เคยเลือกเวลาและสถานที่ แม้ประเทศไทยจะไม่ใช่จุดศูนย์กลางของรอยเลื่อนขนาดใหญ่เหมือนญี่ปุ่นหรืออินโดนีเซีย แต่แรงสั่นสะเทือนที่หลายคนรู้สึกได้ก็เพียงพอจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งกับอาคารและทรัพย์สินภายในบ้านหรือคอนโด คำถามคือ… หากวันหนึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลโดยตรงกับทรัพย์สินของเรา เราจะพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่แค่ไหน? ความจริงที่ควรรู้ ประกันทรัพย์สินมีบทบาทอย่างไร หลายคนยังเข้าใจผิดว่า ประกันบ้านหรือคอนโด คุ้มครองเฉพาะไฟไหม้หรือโจรกรรม แต่ความจริงแล้วกรมธรรม์หลายแบบสามารถครอบคลุม ภัยธรรมชาติ รวมถึงแผ่นดินไหว (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและความคุ้มครองที่เลือก) สิทธิประโยชน์สำคัญ ได้แก่ กรณีที่เห็นภาพชัดเจน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวกลางปีนี้ หลายครอบครัวที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางต่างรีบตรวจสอบบ้าน คอนโด และอาคารสำนักงานว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ หากพบความเสียหายและมีประกันคุ้มครองอยู่แล้ว ก็สามารถขอเคลมเพื่อซ่อมแซมได้อย่างอุ่นใจ ตรงกันข้าม หากไม่มีประกัน เจ้าของบ้านจำเป็นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งอาจกระทบต่อเงินออมและแผนการเงินระยะยาว วิธีเลือกประกันทรัพย์สินอย่างมั่นใจ บทสรุป แม้แผ่นดินไหวจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทย แต่เพียงครั้งเดียวก็สามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้ การมี ประกันทรัพย์สิน จึงไม่ใช่เพียงค่าใช้จ่ายประจำปี แต่คือ เครื่องมือปกป้องการเงินและคุณภาพชีวิตของครอบครัว “เพราะภัยพิบัติไม่เคยบอกล่วงหน้า การเตรียมพร้อมด้วยประกัน คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด” ✦ หากคุณกำลังมองหาประกันบ้านหรือคอนโดที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ทีมงาน PCK Insurance Broker พร้อมให้คำแนะนำและช่วยคุณเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสม เพื่อความอุ่นใจในทุกสถานการณ์

การเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อพักผ่อน ทำงาน หรือร่วมกิจกรรมพิเศษ มักเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่รัดกุมแต่…บางสิ่งที่ไม่อยู่ในแผน ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไฟลท์ดีเลย์, กระเป๋าหาย, เจ็บป่วยกลางทริป หรือแม้แต่ต้องยกเลิกการเดินทางกะทันหัน คำถามคือ…“ทำประกันเดินทาง คุ้มไหม?” คำตอบคือ “คุ้ม”… ถ้ามองในแง่ของความเสี่ยงและความไม่แน่นอน 1. คุ้มครองค่าใช้จ่ายที่อาจ “ไม่คาดคิด” 2. ค่าเบี้ย “เริ่มต้นเพียงหลักร้อย”เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หลักร้อยเพื่อความอุ่นใจตลอดทริป ถือว่าคุ้มค่า 3. เงื่อนไขยืดหยุ่น เลือกได้ตามแผนการเดินทาง สรุป: ใครควรทำประกันเดินทาง? ถ้ายังลังเล ลองถามตัวเองง่าย ๆ ว่า… ถ้าทริปนี้มีปัญหา ต้องควักจ่ายเองทั้งหมด…คุณรับมือไหวไหม?ถ้าไม่แน่ใจ → ประกันเดินทางอาจเป็น “ทางเลือกที่คุ้มที่สุด” สำหรับคุณ 📲 สนใจแผนประกันเดินทางแบบคุ้มครองครอบคลุม…

ผู้ทำประกันสุขภาพหลายท่านอาจสงสัยว่า “ทำไมเบี้ยประกันปีนี้แพงขึ้น ทั้งที่ยังใช้แผนเดิม?” คำตอบคือ การปรับเบี้ยประกันสุขภาพ มักเกิดขึ้นตามช่วงอายุ เนื่องจากความเสี่ยงด้านสุขภาพจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งเป็นหลักการทางสถิติที่ใช้กันในธุรกิจประกันสุขภาพทั่วโลก การปรับเบี้ยอาจเกิดขึ้นในกรณีใดบ้าง? เกณฑ์การปรับเบี้ยประกันสุขภาพทั่วไป (แบ่งตามช่วงอายุ) ช่วงอายุ ลักษณะความเสี่ยง แนวโน้มเบี้ย 0 – 10 ปี ความเสี่ยงเจ็บป่วยจากไวรัส ภูมิแพ้ โรคในเด็ก เบี้ยเริ่มต้นต่ำ-กลาง 11 – 20 ปี ความเสี่ยงไม่มาก แต่เน้นอุบัติเหตุจากกิจกรรม เบี้ยค่อนข้างคงที่ 21 – 30 ปี เริ่มทำงาน ความเครียด ออฟฟิศซินโดรม เบี้ยเริ่มปรับขึ้นเล็กน้อย 31 – 40 ปี ความเสี่ยงโรคเรื้อรังเริ่มสูง…

เมื่อมีรถยนต์ การมีประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการคุ้มครองทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอีกด้วย
แต่ประกันรถยนต์ในไทยมีหลายประเภท แล้วเราควรเลือกแบบไหนดี?

บทนำ ภาคประกันสุขภาพไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อระบบ “Copayment” หรือ “การร่วมจ่าย” เข้ามามีบทบาทในกรมธรรม์ประกันสุขภาพใหม่ที่จะเริ่มคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อส่งเสริมให้ผู้เอาประกันใช้บริการทางการแพทย์อย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น Copayment คืออะไร? Copayment คือ ระบบที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางส่วนร่วมกับบริษัทประกันภัย โดยส่วนใหญ่จะกำหนดเป็น เปอร์เซ็นต์ ของค่ารักษาทั้งหมด หรือในบางกรณีอาจเป็น จำนวนเงินคงที่ ต่อการใช้บริการแต่ละครั้ง ตัวอย่างการคำนวณ: หากกรมธรรม์กำหนด Copayment 30% และค่ารักษาพยาบาลคือ 10,000 บาท ผู้เอาประกันจะต้องจ่าย 3,000 บาท และบริษัทประกันจะจ่ายส่วนที่เหลือ 7,000 บาท เงื่อนไขการเข้าสู่ระบบ Copayment ระบบ Copayment จะเริ่มขึ้นเมื่อผู้เอาประกันเข้าเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งในปีกรมธรรม์ที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กรณี ตามเกณฑ์ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ สมาคมประกันชีวิตไทย ได้กำหนดไว้: ข้อควรทราบ: หากในปีถัดไปพฤติกรรมการเคลมลดลงจนไม่เข้าเงื่อนไขข้างต้น…

ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ทั้งในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภค เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และความท้าทายด้านอัตราการจ่ายค่าสินไหม ล่าสุดจากรายงานไตรมาส 3 ปี 2567 และการคาดการณ์ปี 2568 พบว่าอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีแนวโน้มเติบโต แม้จะอยู่ในระดับที่ระมัดระวัง 📊 ผลประกอบการประกันภัยปี 2567 (ม.ค.–ก.ย.) จากข้อมูลของสำนักงาน คปภ. เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทุกประเภทอยู่ที่ 209,060 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ -0.5% โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ เช่น: 🔻 หมวดที่ลดลง: 🔺 หมวดที่เพิ่มขึ้น: 📉 อัตราส่วนความเสียหาย (Loss Ratio) ปี 2567 อัตราความเสียหายรวมอยู่ที่ 56.9% แสดงถึงภาระต้นทุนการจ่ายค่าสินไหมที่ยังสูง โดยเฉพาะในบางหมวดที่น่าจับตา: ประเภทประกัน Loss Ratio Health 65.5% (สูงที่สุด) Motor 61.7%…